1. ปรับพฤติกรรมการขับถ่าย

            การขับถ่ายนั้นเป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆ เพราะเกี่ยวข้องกับรูทวารโดยตรง พฤติกรรมหลายๆ อย่างที่เราทำขณะขับถ่าย
      นั้นก่อให้เกิด “ริดสีดวง” อย่างช้าๆ สิ่งที่ไม่ควรทำขณะขับถ่ายมีดังนี้

     - ไม่อั้น    
            เมื่อเราอั้นอุจจาระเป็นเวลานานๆ ร่างกายจะดูดซึมน้ำจากอุจจาระจนทำให้อุจจาระแห้ง และ แข๊ง

          เมื่อถึงเวลาถ่ายอาจไปเสียดสีเข้ากับรูทวารและเส็นเลือดบริดเวณทวาร จนเกิดบาดแผล และ
          กลายเป็น “ริดสีดวง” ได้ในที่สุด

          อีกประการหนึ่ง! ใครที่ชอบอั้นอุจจาระไว้บ่อยๆ จะทำให้ร่างกายนั้นติดพฤติกรรมนี้ จนกลายเป็นโรคท้องผูกเรื้อรัง 
          ถ่ายไม่ค่อยออก ขอแนะนำว่าปวดเมื่อไหร่ก็ให้รีบไปเข้าห้องน้ำเถอะนะครับ



                                     การอั้นจะทำให้อุจจาระแข็งและใหญ่ เสี่ยงเป็นท้องอืดเรื้อรังในอนาคต

     – ไม่เบ่ง

           การเบ่งนั้นจะส่งแรงดันจากบริวณท้องไปยังรูทวาร ทำให้เส้นเลือดบริเวณนั้นโป่งพองขึ้นเพราะมีแรงดันจากเลือด
           ไหลไป
           แต่เดิมผิวบริเวณรูทวารนั้นบอบบางอยู่แล้ว เมื่อมีการพองขึ้นก็ทำให้ยิ่งบางและง่ายต่อการเกิดแผล เวลาขับถ่ายจึง
           ควรหลีกเลี่ยงการเบ่งเป็นอย่างยิ่ง


                                          การเบ่งจะทำให้เส้นเลือดบริเวณรูทวารโป่งพอง ง่ายต่อการเกิดแผล

     – ไม่เล่นมือถือ

          เมื่อถึงเวลาถ่ายหนัก หลายๆ คนจะต้องนำมือถือเข้าไปด้วยเสมอ และมักที่จะโฟกัสบนหน้าจอโทรศัพท์มากกว่าการ
          ขับถ่าย
          ทำให้ใช้เวลาในห้องน้ำนานกว่าที่ควร ส่งผลให้ระบบลำไส้เริ่มทำงานผิดเพี้ยน ลำเลียงของเสียได้ไม่สะดวก

          การเข้าห้องน้ำนานแต่ถ่ายไม่ค่อยออกนั้น จะทำให้ร่างกายพยายามเบ่ง เส้นเลือดดำบริเวณรูทวารก็จะเริ่มโป่งพอง
          ง่ายต่อการเกิดแผล ซึ่งอาจทำให้กลับมาเป็นริดสีดวงซ้ำได้


                                             การเล่นมือถือจะทำให้เราเผลอเบ่งตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัว

    2. ควบคุมอาหาร

             การขับถ่ายของเราจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับอาหารที่เรากินเข้าไป คนกินเผ็ดเวลาถ่ายก็จะแสบก้น คนไม่กินผัก
             เวลาถ่ายอึก็จะแข็ง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อระบบขับถ่าย

             รวมไปถึงการดื่มให้เพียงพอในแต่ละวัน ซึ่งหลายๆ คนมักจะละเลย ดังนั้น! จึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
             ในแต่ละวันก่อนจะกลับมาเป็นซ้ำอีก

     – อาหารที่ควรเลี่ยง
           
          อาหารรสจัด 
       ความเผ็ดจากพริกจะทำให้รูทวารเกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง อาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นบางลง ง่ายต่อการ
         ฉีกขาด  และเกิดแผล
          อาหารหมักดอง 
         อาหารหมักดองมีสาร “ฮีสตามีน” ซึ่งเกิดจากกระบวนการหมัก มีผลทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบ ทำให้แผลหายช้า
         และ เกิดอาการติดเชื้อจนเกิดหนองได้ง่าย เช่น ผลไม้ดอง ปลาร้า หน่อไม้ดอง 
          อาหารที่มีผักน้อย (หรือไม่มีผัก) 
         ไฟเบอร์ในผักจะช่วยให้ขับถ่ายง่าย หากได้รับน้อยไปในแต่ละวันอาจทำให้ท้องผูก อุจจาระแข็งบาดรูทวารจนเกิดแผล 
         เช่น อาหารฟาสต์ฟู้ด
          อาหารสำเร็จรูป 
          มี “โซเดียม” และ “ฮีสตามีน” ผสมอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ หากทานเข้าไปมากๆ จะทำให้ท้องอืด แน่นท้อง
          และท้องผูก

  

     – อาหารที่ควรทาน
         
            อาหารที่มีผัก
            ไฟเบอร์ในผักจะช่วยให้อุจจาระนิ่ม ง่ายต่อการขับถ่าย ไม่เสียดสีเข้ากับรูทวารจนเกิดแผล
            ผลไม้ต่างๆ
            ในผลไม้นั้นมีไฟเบอร์และน้ำอยู่ด้วยกัน ทำให้ขับถ่ายได้คล่อง แถมยังมีวิตามินที่ช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
            ผลไม้ที่แนะนำให้ทาน  เช่น มะม่วง ส้ม กล้วย ฝรั่ง 

                                                        ผักและผลไม้จะช่วยให้การขับถ่ายคล่องขึ้น